Trending

‘ปูติน’ สั่งเพิ่มกำลังทหารรัสเซีย 1.7 แสนนาย สู้ภัยคุกคามนาโต้-ยูเครน

‘ประธานาธิบดีปูติน’ ของรัสเซีย สั่งเพิ่มกำลังทหารในกองทัพอีก 1.7 แสนนาย รวมเป็น 1.32 ล้านนาย สู้ศึกยูเครน-สกัดภัยคุกคาม ‘นาโต้’

..............

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดี ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ของรัสเซีย ได้ลงนามในพระราชกฤษฎีกาเพิ่มจำนวนทหารในกองทัพรัสเซียอีก 15% หรือราว 170,000 นาย ซึ่งจะทำให้รัสเซียมีจำนวนทหารรวมทั้งสิ้น 1.32 ล้านนาย โดยทางกองทัพให้เหตุผลว่ามาจากภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับการรุกโจมตีของยูเครน

การลงนามในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มีขึ้นขณะที่ทั้งยูเครนและรัสเซียหวังที่จะยึดพื้นที่เพิ่มในการทำสงครามระหว่างกัน หลังทั้งสองฝ่ายแทบไม่สามารถยึดพื้นที่ในแนวหน้าการสู้รบเพิ่มในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

กองทัพรัสเซียระบุว่า “การเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพแบบเต็มเวลาเป็นผลมาจากภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อประเทศของเราจากปฏิบัติการพิเศษทางทหารและการขยายตัวอย่างต่อเนื่องขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)” และว่าการที่รัสเซียเพิ่มกำลังทหารในกองทัพขึ้น 170,000 นายนั้นเพียงพอที่จะตอบโต้กับการกระทำที่ก้าวร้าวของนาโต้

ทั้งนี้ กองทัพรัสเซียยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงการเกณฑ์ทหารหรือการระดมกำลังทหารเพิ่มอีกครั้ง แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้หันมาใช้วิธีสรรหาทหารใหม่โดยเสนอผลตอบแทนทางการเงินที่น่าดึงดูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่อยู่ห่างไกล

บึ้ม รพ.-สังหารหมู่ใน ‘ฉนวนกาซา’ ใครเป็นคนทำ! เมื่อ ‘อิสราเอล-ฮามาส’ โบ้ยกันไปมา

โศกนาฎกรรมที่ได้ “สังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์” ไปกว่า 500 ชิวิต จากเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซา ... ใครเป็นคนทำ! เมื่อ “อิสราเอล - ฮามาส” โบ้ยกันไปมา

............

ช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงที่โรงพยาบาลอัลลาห์ลี ในเมืองกาซาซิตี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 500 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงและเด็กจำนวนมาก

ภาพวิดีโอของสำนักข่าวต่างประเทศ แสดงให้เห็นการระเบิดใหญ่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้และกลุ่มควันขนาดใหญ่บนท้องฟ้า หลังจากนั้น มีการปล่อยคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นแสงสว่างที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือฉนวนกาซา ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางและเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง

หลังเกิดเหตุ “กลุ่มฮามาส” และ “ปาเลสไตน์” ต่างออกมากล่าวโทษอิสราเอลว่า เป็นผู้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในครั้งนี้ พร้อมประณามว่า “อิสราเอล” กำลังก่ออาชญากรรมสงคราม ทำการสังหารหมู่ที่น่ารังเกียจ และล้ำทุกเส้นต้องห้ามของการทำสงครามไปแล้ว

ด้าน “รัฐบาลอิสราเอล” ก็ออกมาตอบโต้ ระบุว่ากองทัพอิสราเอลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยงัดหลักฐานเทปบันทึกเสียงดักฟังการสนทนาของกองกำลังติดอาวุธในฉนวนกาซา และพบว่าเป็นฝีมือของ “กลุ่มปาเลสไตน์ อิสลามิกญิฮาด” ที่ยิงจรวด 10 ลูกจากสุสานใกล้โรงพยาบาล พร้อมด้วยภาพจากโดรนที่ทางอิสราเอลบันทึกได้ ที่เผยให้เห็นวิถีของจรวจที่ถูกยิงจากพื้นที่ฉนวนกาซาไปยังเขตอิสราเอล

“กองทัพอิสราเอล” ยืนยันว่าไม่ได้โจมตีทางอากาศและไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดโรงพยาบาลในครั้งนี้ พร้อมระบุว่า “กลุ่มฮามาส” รู้ดีว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากการยิงจรวดผิดพลาด แต่กลับพยายามปั่นกระแสเพื่อกล่าวโทษอิสราเอล ทั้งนี้ อิสราเอลยังได้อธิบายการทำงานของจรวดอิสราเอล ว่าจะต้องก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ แต่บริเวณพื้นของโรงพยาบาลกลับไม่มีร่องรอยความเสียหายที่บ่งบอกได้ว่าเป็นจรวดของฝั่งอิสราเอล

ท่ามกลางความสูญเสียของชาวปาเลสไตน์ การสู้รบของอิสราเอลและกลุ่มฮามาสก็ยังดำเนินต่อไป โดยยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง...เหตุระเบิดโรงพยาบาลในครั้งนี้

‘ฮามาส’ ปล่อยตัวประกันไทยเพิ่ม 3 ราย คาดเหลืออีก 15 คน

กระทรวงการต่างประเทศ เปิดชื่อตัวประกันคนไทยได้รับการปล่อยตัวชุดที่ 3 จำนวน 3 คน คาดการณ์ยังมีคนไทยถูกควบคุมตัวอีก 15 ราย

..............

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่ามีคนไทยชุดที่ 3 ได้รับการปล่อยตัวอีก 3 ราย โดยยืนยันรายชื่อผู้ถูกปล่อยตัวชุดที่ 3 จำนวน 3 ราย ดังนี้

1.นายวิเชียร เต็มทอง

2.นายสุรินทร์ เกสูงเนิน

3.นายพรสวรรค์ ปินะกาโล

กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ขณะนี้ทั้ง 3 รายอยู่ที่โรงพยาบาลที่ฝ่ายอิสราเอลจัดไว้เพื่อตรวจสุขภาพ โดยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวก และประสานการติดต่อกับครอบครัวแล้ว

“กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับครอบครัวของพี่น้องคนไทยทั้ง 3 รายที่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนผลักดันการเจรจา”

อย่างไรก็ตาม คาดว่ายังมีคนไทยที่ถูกควบคุมตัวอีกจำนวน 15 ราย ซึ่งรัฐบาลไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยที่เหลือ ให้ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด และจะนำคนไทยทั้ง 17 รายที่ได้รับการปล่อยตัวและผ่านกระบวนการเยียวยาเบื้องต้นในอิสราเอลแล้ว กลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วต่อไป

‘อิสราเอล’ ลั่นบดขยี้ ‘ฮามาส’ !! สหรัฐฯ กาตาร์ อียิปต์ รุมกดดันขยายเวลาพักรบ

“ฮามาส” ต้องการขยายเวลาพักรบชั่วคราวซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันนี้ (27 พ.ย.) สหรัฐฯ กาตาร์ อียิปต์ กำลังช่วยกดดัน-ไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง

...........

“กลุ่มฮามาส” เรียกร้องให้มีการขยายเวลาข้อตกลงการพักรบชั่วคราว ซึ่งจะครบ 4 วันตามข้อตกลง โดยฮามาสกล่าวว่า ต้องการขยายเวลาการพักรบชั่วคราวออกไป หากมีความพยายามอย่างจริงจังจากฝั่งอิสราเอลในการเพิ่มการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในอิสราเอล

ทั้งนี้ โดยรวมตั้งแต่เริ่มการพักรบ อิสราเอลปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์แล้ว 117 คน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการพักรบชั่วคราว “ฮามาส” ระบุว่า อิสราเอลไม่ทำตามข้อตกลงในการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซา ทำให้การปล่อยตัวประกันจากฝั่งฮามาสชุดที่ 2 เกิดความล่าช้าติดขัด ทำให้อียิปต์และกาตาร์ต้องเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาหวังว่าการพักรบชั่วคราวระหว่างอิสราเอลและฮามาสจะดำเนินต่อไปได้ตราบใดที่ตัวประกันถูกปล่อยตัว หลังจากที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันอีก 17 คน วานนี้ (26 พ.ย.)

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับไบเดนเกี่ยวกับการปล่อยตัวตัวประกัน และเสริมว่า เขายินดีที่จะขยายเวลาการหยุดยิงชั่วคราว หากนั่นหมายความว่าในทุกๆ วันของการพักรบจะมีการปล่อยตัวประกันวันละ 10 คน

ทั้งนี้ “เนทันยาฮู” ยังบอกกับไบเดนด้วยว่า เมื่อสิ้นสุดการพักรบ “เราจะกลับมาอย่างเต็มกำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายของเรา นั่นคือการกำจัดกลุ่มฮามาส เพื่อให้แน่ใจว่าฉนวนกาซาจะไม่กลับคืนสู่สภาพเดิม และแน่นอน เพื่อการปล่อยตัวตัวประกันของเราทั้งหมด”

“รอยเตอร์” รายงานอีกว่า กาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐอเมริกา กำลังกดดันให้มีการขยายเวลาการพักรบชั่วคราวออกไปจากข้อตกลงที่จะสิ้นสุดในวันจันทร์นี้ แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการขยายเวลาพักรบจะเกิดขึ้นหรือไม่