Trending

ข่าวดี! กบง.สั่งตรึงราคา LPG อีก 3 เดือน เคาะขายปลีก 423 บาท/ถัง

กบง.ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม LPG อีก 3 เดือน ขายปลีก 423 บาท/ถัง มีผลปีใหม่นี้ “รมว.พลังงาน” เผยบัญชีก๊าซ LPG ติดลบเพิ่ม 2 พันล้าน รวมติดลบสะสม 4.7 หมื่นล้าน

...............

ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งนี้ เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่ออีก 3 เดือน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–31 มี.ค. 2567

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566 พบว่ายังมีแนวโน้มราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

โดยจะกระทบต่อราคาสินค้าและบริการในประเทศ ส่งผลต่อเนื่องถึงค่าครองชีพของประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่ประชุม กบง.จึงมีมติดังกล่าว

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า แม้การตรึงราคาตามมติข้างต้น จะทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ติดลบเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันการติดลบสุทธิอยู่ที่ประมาณ 47,764 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มี.ค.2567

“กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงพลังงานจะเร่งบริหารจัดการสถานการณ์พลังงานโดยด่วนเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้พลังงานในราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม และยั่งยืนต่อไป”

ยืด 3 เดือนใช้ E-Ticket ขายตั๋วเข้าอุทยานฯ ช่วงปีใหม่

แจงปมการยุติการเก็บเงินเข้า 6 อุทยานแห่งชาติผ่านระบบ E-Ticket ล่าสุดยืดเวลาใช้ระบบเดิมอีก 3 เดือนช่วงไฮ-ซีซั่น ควบคู่กับพัฒนาระบบใหม่ เผยยอดจัดเก็บค่าตั๋วเข้าอุทยานฯ ปี 65 จัดเก็บได้ 715 ล้าน-ปี 66 จัดเก็บได้ 1.4 พันล้าน ขณะที่ 2 เดือนล่าสุดเก็บได้ 309 ล้าน

..............

จากเหตุผิดปกติในการยกเลิกขายบัตร E-ticket เข้าอุทยานแห่งชาติ จำนวน 6 แห่ง ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ส่งผลให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ได้เตรียมเชิญ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วย “อรรถพล เจริญชันษา” รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาชี้แจงถึงเหตุผลในการยกเลิกดังกล่าว

โดยก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท คิว คิว (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนาระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ในอุทยานแห่งชาตินำร่อง 6 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ,อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ,อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ,อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ,อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 และได้สิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญา เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้มีการอนุมัติเงินอุทยานแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 เพื่อดำเนินโครงการจ้างดูแลระบบการจำหน่ายบัตร E-ticket ฃซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการพัฒนาระบบฯ เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งกรมอุทยานฯ โดยสำนักอุทยานแห่งชาติได้หารือร่วมกับ ป.ป.ช. เพื่อพัฒนาระบบการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ไขปัญหาระบบการจอง การรับเงิน ระบบการสื่อสาร สัญญาณอินเตอร์เน็ต และแก้ไขปัญหาการตัดเงินผ่านระบบที่ไม่ตรงกับวันที่เข้าใช้บริการจริง ซึ่งส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวและสถิติเงินรายได้ของอุทยานแห่งชาติในวันดังกล่าว ไม่สอดคล้องกัน

เช่นมีการจองและชำระเงินในวันที่ 1 แต่เข้าใช้บริการในวันที่ 7 จะทำให้สถิติเงินรายได้เกิดขึ้นในวันที่ 1 แต่สถิตินักท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 ประกอบกับพบข้อบกพร่องจากการใช้งานระบบในส่วนอื่นๆ จึงต้องมีการพัฒนาและจัดทำระบบใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามคำแนะนำของ ป.ป.ช. โดยจะมีการพัฒนาระบบ E-ticket เพิ่มเติมอีกจำนวน 31 แห่ง

แต่เนื่องจากระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีการประกวดอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ใหม่ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับบริษัทรายอื่นๆ ในการแข่งขันเพื่อพัฒนาระบบ เนื่องจากมีบริษัทเข้ามานำเสนอระบบการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องปิดระบบการจองและชำระเงินผ่านระบบ E-ticket ไว้เป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป

กระนั้นล่าสุด กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ ครั้งที่ 1/2566 ที่ประชุมมีการรายงานผลการจัดเก็บเงินอุทยานฯ โดยปี 2565 จัดเก็บได้ประมาณ 715 ล้านบาท ,ปี 2566 จัดเก็บได้ประมาณ 1,467 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.-พ.ย.66) จัดเก็บได้ประมาณ 309 ล้านบาท

ซึ่งจะเห็นได้ว่า เมื่อมีการใช้ระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการในรูปแบบ E-ticket ควบคู่กับระบบเดิม เงินรายได้อุทยานก็มิได้ลดน้อยลงแต่ประการใด กลับยังพบว่าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ข้อมูลการจัดเก็บเงินรายได้ของอุทยานแห่งชาติ นำร่อง 6 แห่ง ผ่านระบบ E-ticket ในระหว่างวันที่ 1-29 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีการจัดเก็บเงินทั้งหมด 121 ล้านบาท โดยจัดเก็บผ่านระบบ E-ticket 40 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 32.87% ของการจัดเก็บเงินรายได้ในภาพรวม

โดยที่ประชุมได้ขอให้มีการเร่งรัดพิจารณาพัฒนาระบบการจำหน่ายบัตร E-ticket ในอุทยานแห่งชาติ ให้สามารถอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการจองและชำระเงิน ลดขั้นตอน และเหมาะสมกับการใช้งานและพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทั้ง 133 แห่ง

พร้อมกันนี้ จัดให้มีการวิเคราะห์และประเมินการใช้งานระบบการจำหน่ายบัตร E-ticket ในอุทยานแห่งชาติ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ฃและกำหนดแนวทางการพัฒนาระบบให้เหมาะสม โดยเห็นว่าในช่วงเดือน ธ.ค.66-ก.พ.67 เป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว หรือไฮ-ซีซั่น ซึ่งเป็นโอกาสที่จะรับรู้ปัญหาและอุปสรรคการใช้ระบบ E-ticket ของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ เพื่อนำข้อดีและข้อเสียมาปรับปรุงและพัฒนาระบบ ระยะที่ 2 จำนวน 31 แห่ง

จึงมีมติให้ดูแลระบบเดิมชั่วคราว ให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 3 เดือนในช่วงไฮ-ซีซั่น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ

‘หญิงหน่อย’ ฉายการเมืองไทยปีหน้า นายกฯ เผชิญด่านเคราะห์ ชี้หากนโยบายเรือธงเหลว! เปลี่ยนแน่

‘ไทยสร้างไทย’ จัดขบวนรับการเมืองปี 67 ‘หญิงหน่อย’ ฉายภาพชัด! นายกฯ’ ต้องเจอ 2 ความท้าทาย ต้องฝ่าด่านกฎหมาย ปมนโยบาย ‘เงินดิจิทัล 1 หมื่น’ ฟันธงหากเรือธงล้มเหลว เห็นความเปลี่ยนแปลงแน่

............

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. “พรรคไทยสร้างไทย” จัดอบรมสัมมนาหัวข้อ ก้าวต่อไปของพรรคไทยสร้างไทย “We’re Violet เวิร์คช็อประดมสมองชาวไทยสร้างไทย” โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้นำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงทิศทางการเมืองไทยในปี 2567 ว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลง พรรคไทยสร้างไทยในฐานะฝ่ายค้านจะต้องทำงานอย่างเต็มที่ และจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ เพราะรัฐบาลอาจมีการปรับเปลี่ยนภายใน หรือเกิดความไม่แน่นอนในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องเผชิญความท้าทาย จากการเดินหน้าผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ต่อประชาชน ทั้งในมิติทางกฎหมาย ที่นโยบายเรือธง อย่างเงินดิจิทัล 10,000 บาท อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวินัยการเงินการคลัง หรือหากผ่านด่านทางกฎหมายได้ ก็ยังมีด่านของความสำเร็จที่พี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน คอยจับจ้องอยู่ว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้ตามเป้าหมายหรือไม่

ข่าวดีส่งท้ายปี ‘ยูเนสโก’ ประกาศขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์ไทย’ เป็นมรดกโลก

‘ยูเนสโก’ ประกาศขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์ไทย’ เป็นมรดกโลก ด้านมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม นายกฯ ร่วมยินดี พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนทั่วโลกร่วมสัมผัสประเพณีสงกรานต์ไทย

...............

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. “องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ” หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้ “สงกรานต์ไทย” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) เป็นรายการตัวแทน “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” ในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 ที่เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา

ก่อนหน้านี้ “ประเทศไทย” เคยได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จาก “ยูเนสโก” มาแล้ว ได้แก่ “โขน” (ปี 2561) , “นวดไทย” (ปี 2562) และ “โนรา” ขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2564

พร้อมกันนี้ ยังได้เผยแพร่วิดีโอของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสนี้ด้วย

ความตอนหนึ่งว่า “ในนามของรัฐบาลไทย และประชาชนชาวไทย ขอบคุณทุกภาคส่วนสำหรับการอุทิศตน และความมุ่งมั่น ทั้งจากฝ่ายประเมินผล และคณะกรรมการ ที่ได้คัดเลือกให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” อยู่ในรายการบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

โดยสงกรานต์เป็นประเพณีในวันปีใหม่ไทย มีการเฉลิมฉลองในช่วงกลางเดือนเมษายนทั่วประเทศ เป็นประเพณีที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นโดยคนไทย และชุมชนชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นประเพณีอันงดงามและมีความหมาย สะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญูกตเวทีของไทยต่อบรรพบุรุษ ความเอื้ออาทรและความปรารถนาดีต่อผู้อื่น และจิตวิญญาณแห่งความสามัคคี

กิจกรรมในช่วงประเพณีสงกรานต์ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของมรดกทางวัฒนธรรม ได้แก่ บิณฑบาต สรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำดำหัวผู้อาวุโสที่เคารพนับถือ ตลอดจนการแสดงละครพื้นบ้าน และการแสดงที่เกี่ยวเนื่องกับตำนานสงกรานต์

ดังนั้น สงกรานต์ในประเทศไทยจึงเป็นตัวแทนของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ และจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลยินดีที่จะส่งเสริมความรู้ และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับสงกรานต์ร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศ โดยหวังว่าการหารือและทำความเข้าใจร่วมกัน จะนำไปสู่การบรรลุสันติภาพ และความมั่นคงสำหรับทุกฝ่าย ซึ่งรัฐบาลยินดีต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ให้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ของประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย

หนาวนี้เที่ยวอุทยานฯ จัด Winter Festival รับลมหนาว ณ ถ้ำหลวงฯ

กรมอุทยานฯ เปิดงานรับลมหนาว “ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” 15 ธ.ค.นี้ ลุ้นรางวัลเที่ยวอุทยานฯ ฟรี นาน 1 ปี

............

นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการและย้ำให้อุทยานฯ ทุกแห่งเข้มงวดเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการบริการนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว รวมทั้งการป้องกันสถานการณ์ไฟป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติในภาคเหนือ

สำหรับการท่องเที่ยวอุทยานฯ ในช่วงฤดูหนาวนั้น “อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” ถือเป็นอุทยานฯ ที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอันดับแรก ของจังหวัดเชียงราย โดยในช่วงปี 2562-2563 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 7 แสน - 1 ล้านคน/ปี แต่ในช่วงโควิด-19 และสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวลดลงเหลือประมาณ 3-5 แสนคนต่อปี

ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กรมอุทยานฯ จึงได้มีการจัดงาน “หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ National Parks to Remember Winter Festival” ณ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้

ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการการท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ โดยเฉพาะความสวยงามของธรรมชาติในช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่ชื่นชอบของประชาชนคนไทยโดยทั่วไป มีการจำหน่ายสินค้าชุมชน นอกจากนี้ผู้ร่วมงานจะได้รับของที่ระลึก ตลอดจนมีการแจกบัตรท่องเที่ยวอุทยานฯ ฟรี ในระยะเวลา 1 ปี

สำหรับในปี 2566-2567 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน/ปี ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากจากการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในพื้นที่ จ.เชียงราย

นายกฯ ขีดเส้น 2 สัปดาห์ชงปรับค่าแรง จี้ DSI สางหมูเถื่อน-โกงหุ้น

นายกฯ สั่ง “แรงงาน” ชงปรับค่าแรงขั้นต่ำเข้า ครม. ภายใน 2 สัปดาห์ ด้าน “พิพัฒน์” กลางไทม์ไลน์เสนอ ครม. พร้อมขีดเส้น รมว.ยุติธรรม สัปดาห์หน้า ต้องเห็นหัวขบวนค้าหมูเถื่อน จี้ “ดีเอสไอ” สางคดีโกงหุ้น STARK-MORE

....................

สรุปมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 โดยประเด็นที่น่าสนใจคือ เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ขอให้กระทรวงแรงงาน นำวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 2 สัปดาห์นี้

โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้ชี้แจงกรอบเวลาการพิจารณา ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ จะมีการสรุปการนำเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัด และจะมีการประชุมหารือกันภายในกระทรวง ในวันที่ 30 พ.ย.

ก่อนจะมีการประชุมเพื่อหารือคณะกรรมการไตรภาคี โดยในวันที่ 12 ธ.ค. คาดว่า รมว.แรงงาน จะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อไป

นอกจากนี้ นายกฯ ได้กำชับให้ รมว.ยุติธรรม ไปกำกับและเร่งรัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เร่งดำเนินการกับหัวขบวนการค้าหมูเถื่อน และหัวขบวนการทุจริตหุ้น STARK รวมถึงหุ้น MORE โดยขีดเส้น ภายในกลางสัปดาห์หน้า ต้องการเห็นหัวขบวน โต้โผการกระทำผิดให้ได้