‘พาณิชย์’ ปูพรม! ร้านธงฟ้า-รถพุ่มพวง เปิดทางใช้เงินดิจิทัล 1 หมื่น

“ภูมิธรรม” จี้ “กรมการค้าภายใน” หาวิธีสร้างตลาดรัศมี 4 กม. รับมาตรการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท พร้อมงัด “ร้านธงฟ้า-รถพุ่มพวง” อุดช่องโหว่เพิ่มร้านค้าท้องถิ่น ยันอีก 4 เดือนเม็ดเงินกระจายทั่วประเทศ 5.7 แสนล้าน ชี้อาจขยายถึง 6 กม. แนะร้านค้าอย่ากังวลเรื่องภาษี ยันเป้ากระตุกเศรษฐกิจไทย-กระตุ้นจับจ่ายใช้สอย
การเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่าน “ดิจิทัล วอลเล็ต” เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวจุดชนวนกระตุกเศรษฐกิจของประเทศให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ได้กลายเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้ โดยตั้งเป้าที่จะ “ใส่เงิน” เข้าไปในระบบเศรษฐกิจทั่วประเทศให้ถึงรากหญ้าในรัศมี 4 กิโลเมตร ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐจะต้องสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้เป็นจริงภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567
“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ให้นโยบาย “เติมเงิน 10,000 บาท” กับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายใหญ่ของรัฐบาลที่จะใช้กระตุ้น และเป็นเครื่องมือช่วยกระตุกเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ช่วยเรื่องของกำลังซื้อให้มีความแข็งแรงขึ้น เมื่อมีกำลังซื้อที่แข็งแรงก็จะนำไปสู่เรื่องของการผลิต และให้ผู้ประกอบการได้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ในเรื่องของการนำวัตถุดิบเข้ามาเสริม เพื่อรองรับความต้องการของตลาด
“เมื่อนโยบายนี้เกิดขึ้น จะทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนได้หลายรอบ โดยใช้งบประมาณก้อนใหญ่ถึง 5.7 แสนล้านบาท ให้เกิดการหมุนเวียนภายในระยะเวลา 6 เดือน เพราะเท่ากับว่าเป็นการจับจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม เกิดการหมุนเวียนและก่อให้เกิดรายได้หลายทาง และรายได้นี้ก็จะนำไปสู่การดูแลในนโยบายอื่น เช่น นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ เพราะเศรษฐกิจหมุนเวียน ธุรกิจก็จะเกิดการขยายตัว เพราะภายใน 4 ปีสามารถดำเนินการได้ ก็จะก่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชน”
เรื่องนี้กรมการค้าภายในจะต้องเตรียมการ ซึ่งได้มอบนโยบายไปว่า รัฐบาลจะมีงบประมาณออกมา และเกิดการกระจายรายได้ โดยมีข้อผูกพันว่า ต้องใช้ภายในพื้นที่ 4 กิโลเมตร แต่หากผู้ได้รับอยู่ในพื้นที่นอกเขต หรือชาวเขา รัฐบาลก็สามารถยืดหยุ่น ขยายพื้นที่ออกไปได้
โดยได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปเตรียมข้อมูลมาว่า หากประชาชนไม่สามารถเข้าถึง “สินค้า” กรมการค้าภายในจะมีเครือข่ายอะไร เช่น “ร้านธงฟ้า” สามารถที่จะกระจายเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้หรือไม่ ปัจจุบันมีข้อมูลพื้นฐานร้านธงฟ้ามีจำนวนเท่าไหร่ ในกี่จังหวัด จะสามารถรองรับนโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” ได้อย่างไร ซึ่งร้านจะขายสินค้าแบบเดิมก็สามารถดำเนินการได้
นอกจาก “ร้านธงฟ้า” อาจจะขยายไปในส่วนของ “รถพุ่มพวง” นำสินค้าไปขาย จะสามารถที่จะสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่รับสินค้าต่างๆ และไปกระจายสินค้าได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการสร้างจุดกระจายสินค้าให้ประชาชนสามารถเข้าถึง โดยกรมการค้าภายในอาจจะต้องคิดอะไรใหม่ ไม่ใช่เพียงว่าปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้นล้นตลาดและก็เทกระจาด แล้วคุณเข้าไปรับซื้อ
แต่มันยังมีวิธีการหรือช่องทางอื่นๆ เพิ่มการกระจายสินค้า การเจรจากับสถานีบริการน้ำมันนำสินค้าไปกระจาย หน่วยงานที่ดูแลก็มีการดำเนินการอยู่แล้ว หากสามารถเจรจาและกระจายสินค้าได้มันก็ก่อให้เกิด “ตลาดใหม่” ขึ้นได้
“ทุกร้านเข้าได้หมด ทุกระดับ ร้านหมูปิ้ง ร้านขายของ แต่ว่าเอาให้ชัด ตอนนี้อยู่ระหว่างของการสร้างบล็อกเชน เพื่อกำหนดกฎกติกาให้สามารถเข้ามาได้ ถ้าเราสามารถนำร้านธงฟ้าเข้ามาอุดช่องว่าง ซึ่งอาจจะไม่มีความจำเป็นในการขยายพื้นที่จาก 4 กม. เป็น 6 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเป็นจริง ว่าจะสามารถดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน” นายภูมิธรรม กล่าว
พร้อมระบุว่า นี่เป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งสามารถเข้าไปสร้างกลไกของตลาดเพื่อรองรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เป้าหมายไม่ใช่ในเรื่องของกำไร แต่คือเรื่องของการกระจายธุรกิจ การพยุงราคา ให้ประชาชนได้รับบริการและเข้าถึงได้มากที่สุด
ส่วนเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ประชาชนกังวลเรื่องการเก็บภาษีนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ขออย่ากังวลเรื่องเก็บภาษี เป้าหมายของเราคือเราจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้ากับทุกฝ่าย ถ้าเศรษฐกิจดีก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น การจับจ่ายใช้สอยก็จะดีขึ้น การจ้างงานการปฏิบัติงานต่างๆก็จะสามารถหารายได้เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการรายเล็กก็จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการดิจิทัลวอลเลต เราใช้ในการที่จะขยายไปในทั่วทุกพื้นที่ ไม่ได้ใช้เฉพาะเมืองใหญ่อย่างเดียว หวังว่า 6 เดือนที่เราใช้เงินจำนวนนี้ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีขึ้นได้