‘พิธา’ ไขก๊อก! ไม่พอให้ ‘ก้าวไกล’ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน

“พิธา” ไขก๊อกหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดทางคนใหม่นั่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” ปชป.รอเสียบ! เงื่อนไขรัฐธรรมนูญ “ปิดประตูตายก้าวไกล” หากคิดได้เก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน “หมออ๋อง-ปดิพัทธ์” ต้องยอมทิ้งเก้าอี้!

............

หลังจาก “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคชนะเสียงการเลือกตั้งอันดับ 1 แต่ต้องมาเป็น “ฝ่ายค้าน” และด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดให้ “ผู้นำฝ่ายค้าน” จำเป็นต้องเป็น ส.ส. ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของพรรคฝ่ายค้านอันดับ 1

ซึ่งปัจจุบัน นายพิธายังอยู่ภายใต้คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จึงยังไม่สามารถเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร และไม่สามารถจะดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ในระยะเวลาอันใกล้

นายพิธา ระบุในตอนหนึ่งว่า ได้หารือกับคณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลแล้วเห็นว่า บทบาท “ผู้นำฝ่ายค้าน” มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อระบบรัฐสภา และสมควรเป็นบทบาทที่รับผิดชอบโดยหัวหน้าพรรคของพรรคฝ่ายค้านหลักในสภา ซึ่งตอนนี้คือพรรคก้าวไกล

“ผู้นำฝ่ายค้าน” จะเปรียบเสมือนหัวเรือที่กำกับทิศทางการทำหน้าที่ในสภา ของฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลและผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงที่ยังตกหล่นจากนโยบายของรัฐบาล ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทว่าการลาออกของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ก็อาจไม่เพียงพอ ที่จะทำให้เก้าอี้ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ตกเป็นของคนในพรรคก้าวไกล

นั่นเพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 กำกับไว้ชัดว่า ภายหลังที่คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พระมหากษัตริย์ จะทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาฯ ที่มีจํานวนสมาชิกมากที่สุด และสมาชิกมิได้ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

แปลความได้ว่า เงื่อนไขของ “ผู้นำฝ่ายค้าน” คือ จะต้องเป็น “หัวหน้าพรรค” ของพรรคที่มี ส.ส.มากที่สุด โดยที่พรรคการเมืองนั้นจะต้องไม่มีคนเป็น “รัฐมนตรี” ไม่ต้องมีคนเป็น ประธานสภา หรือ รองประธานสภา

แต่กรณีของพรรคก้าวไกล ปรากฏว่า “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา มีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 พรรคก้าวไกลจึงไม่เข้าเงื่อนไขตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 106 กำหนด

หากเป็นเช่นนั้น “ผู้นำฝ่านค้าน” ก็จะตกเป็นของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แทน

โดย “วิษณุ เครืองาม” กล่าวไว้ขณะยังเป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลกฎหมายให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงการที่พรรคก้าวไกลจะมีผู้ทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ว่า “ถ้าจะต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้าน (นายปดิพัทธ์) ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา”

ขณะที่ นายปดิพัทธ์ยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา

ดังนั้น ถ้าพรรคก้าวไกล ต้องการมีผู้นำฝ่ายค้าน ลำพังแค่ “นายพิธา” ลาออกจากหัวหน้าพรรคคงไม่พอ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ “หมออ๋อง-ปดิพัทธ์” จะยอมทิ้งเก้าอี้รองประธานสภาหรือไม่ !!!