พักรบ ‘สงครามการค้า’ เมื่อจีนและสหรัฐบรรลุข้อตกลงลดภาษีศุลกากรชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ดันมูลค่าหุ้นเทคสหรัฐพุ่ง 8 แสนล้านดอลลาร์
CNBC รายงานว่า มูลค่าตลาดรวมของกลุ่มหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สหรัฐฯ รวมถึงหุ้นในกลุ่ม “Magnificent 7” พุ่งสูงขึ้นถึง 837,500 ล้านดอลลาร์ หลังปิดตลาดเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ได้แรงหนุนสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงลดภาษีศุลกากรชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน
ก่อนหน้านี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าวได้สร้างความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การพักรบทางการค้าด้วยการระงับการเก็บภาษี “ซึ่งกันและกัน” เป็นการชั่วคราว
หนุน ‘หุ้นสหรัฐฯ’ ทำนิวไฮอีกครั้งในปีนี้
ผลพวงจากข่าวดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Nvidia (NVDA) แม้จะยังคงเผชิญกับข้อจำกัดหลายประการเกี่ยวกับชิปที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งไปยังประเทศจีน ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5%
AMD ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5%
Broadcom (AVGO) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 6%
Qualcomm (QCOM) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 5%
ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (TSMC) พุ่งขึ้นราว 6%
ASML Holding ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 6%
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เบาลงทำให้หุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดจีนสูง และกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐสามารถฟื้นตัวกลับมาได้
ขณะที่ Apple (AAPL) ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 6%
Amazon (AMZN) ก็พุ่งขึ้นถึง 8%
“แดเนียล ไอฟส์” หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีระดับโลกของ Wedbush Securities มองว่าสหรัฐฯ และจีนกำลังเร่งดำเนินการเพื่อบรรลุข้อตกลงที่กว้างขึ้น จึงเชื่อว่าตลาดและหุ้นเทคโนโลยีจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกในปี 2568 นี้ เนื่องจากนักลงทุนน่าจะหันไปให้ความสนใจกับขั้นตอนต่อไปในการหารือทางการค้าซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า